ออฟฟิศทันสมัย แบบ Smart Office ใครๆก็อยากมาทำงาน!

บรรยากาศการทำงานหรือสถานที่ทำงานเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญมากสำหรับการเลือกทำงาน เพราะเมื่อเวลาเราสนใจอยากทำงานกับบริษัทใดก็ตาม เราต้องไปค้นหาข้อมูลของบริษัทนั้นๆ รวมทั้งต้องอยากเห็นบรรยากาศในห้องทำงานที่เราต้องไปอยู่และทำงานร่วมกับผู้อื่น

เพราะการทำงานแต่ละที่นั้นเป็นสิ่งที่เราควรเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตำแหน่งงาน หน้าที่รับผิดชอบ เงินเดือน สวัสดิการ หรือแม้แต่จะเป็นสถานที่ทำงานก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญเช่นเดียวกัน

ออฟฟิศน่าอยู่ใครๆก็อยากมาทำงานที่ออฟฟิศ ไม่ว่าจะอยู่ที่โลเคชั่น การตกแต่ง ระบบเทคโนโลยีภายในออฟฟิศ เฟอรนิเจอร์ หรือว่าจะเป็นความทันสมัยต่างๆ ซึ่งวันนี้จะมาพูดถึงออฟฟิศที่ทันสมัย Smart Office ที่อำนวยสะดวกแก่พนักงานและเอื้อประโยชน์ต่อกระบวนการทำงานในด้านต่างๆในองค์กรให้ง่ายมากยิ่งขึ้น

อาคารอัจฉริยะ หรือ Smart Office 

คือ ออฟฟิศที่ออกแบบและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน ความปลอดภัย และประสบการณ์ของผู้ใช้งาน เทคโนโลยีที่ใช้ใน smart office นั้นหลากหลาย เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT), การเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) และการวิเคราะห์ข้อมูล (Data analytics)

Smart Office มีอะไรบ้าง?

ระบบอัตโนมัติ

ระบบอัตโนมัติสามารถช่วยงานต่างๆ เช่น การควบคุมอุณหภูมิ การเปิด-ปิดไฟ การเปิด-ปิดประตู ระบบสแกนใบหน้าเข้างาน และระบบสแกนลายนิ้วมือ เป็นต้น

ระบบอัจฉริยะ

ระบบอัจฉริยะสามารถเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้งานและปรับให้เหมาะสมกับความต้องการ เช่น ระบบจองห้องประชุม

ระบบเชื่อมต่อ

ระบบเชื่อมต่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลและอุปกรณ์ต่างๆ จากทุกที่

ระบบที่กล่าวมาข้างต้นเป็นแค่การยกตัวอย่างเพียงเท่านั้น

ประโยชน์ของ Smart Office 

ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน

Smart office สามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานโดยการลดขั้นตอนการทำงานซ้ำๆ และช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างเช่น สถิติข้อมูลการบันทึกเวลาการเข้า-ออกงานของพนักงาน ก็สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานต่อไป

เพิ่มความปลอดภัย

เพิ่มความปลอดภัยโดยการติดตามกิจกรรมต่างๆและจับภาพเคลื่อนไหวเหตุการณ์ต่างๆของพนักงานหรือคนที่เข้ามาในบริเวณออฟฟิศ และยังสามารถแจ้งเตือนภัยเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือเหตุการณ์ไม่คาดคิด

มอบประสบการณ์ที่ดี

มอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับผู้ใช้งาน โดยทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบายมากขึ้น ยกตัวอย่าง เช่น การใช้ระบบจองห้องประชุม และการสแกนใบหน้าเข้า-ออกประตู

ลดต้นทุน

การใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการลดใช้พลังงาน ลดการใช้ทรัพยากรสิ้นเปลือง และลดการใช้กระดาษ

เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน

บางออฟฟิศให้พนักงานสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ หรือทำงานจากที่บ้าน โดยไม่จำกัดให้ทำงานอยู่แค่ในออฟฟิศ และการใช้เทคโนโลยีต่างๆมาช่วยให้การทำงานง่ายยิ่งขึ้น

สร้างภาพลักษณ์ที่ดี

เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร และเป็นการสะท้อนภาพลักษณ์ขององค์กรที่ทันสมัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และยังเป็นการให้ความสำคัญกับพนักงาน

 

ตัวอย่างของ Smart Office ในประเทศไทย

อาคารสำนักงานของ Google ประเทศไทย

อาคารสำนักงานของ Google ประเทศไทยใช้เทคโนโลยีต่างๆ เช่น ระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ ระบบตรวจจับความหนาแน่นของผู้ใช้งาน และระบบจองพื้นที่ทำงาน

ขอบคุณรูปภาพ https://www.beartai.com/

 

อาคารสำนักงานของ SCB Park

อาคารสำนักงานของ SCB Park ใช้เทคโนโลยีต่างๆ เช่น ระบบจดจำใบหน้า ระบบจองพื้นที่ทำงานหรือจองห้องประชุม และระบบตรวจจับวัตถุต้องสงสัย

อาคารสำนักงานของ True Digital Park

อาคารสำนักงานของ True Digital Park ใช้เทคโนโลยีต่างๆ เช่น ระบบควบคุมแสงสว่างอัจฉริยะ ระบบตรวจจับการบุกรุก และระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ

ในอนาคตคาดว่าเทคโนโลยีต่างๆที่ใช้ในการอำนวยความสะดวกสบายภายในออฟฟิศ จะมีการพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ และกลายเป็นส่วนสำคัญของออฟฟิศสมัยใหม่ และจะช่วยให้ออฟฟิศเป็นสถานที่ที่น่าทำงานและยังสามารถประหยัดพลังงานได้อย่างดีด้วย